เมื่อก่อน เราสอนให้เด็ก เชื่อฟัง จดจำ และนำไปใช้ เพราะยุคก่อนข้อมูลไม่เยอะ ไม่ต้องแยกแยะ เราสามารถคัดสรรกลั่นกรองสิ่งดีงามให้เด็กได้ แต่ทุกวันนี้ การสอนแบบเดิม อาจไม่เหมาะ เพราะเด็กจะต้องเจอข้อมูลมากมายที่วิ่งมาหาเขา เราจึงควรฝึกทักษะ ของการ คิด แยกแยะ และค้นหา เพราะ ถ้าเด็ก เชื่อ จนชิน ปัญหาจะตามมามากมาย ทุกวันนี้เราจะเห็น การโพสต์ข้อความ รูปภาพ โจมตี แบ่งแยก การโฆษณาชักชวน ให้ซื้อของที่ไม่จำเป็น และอาจเป็นอันตราย ต่อตัวเขาเอง และบ้านเมือง ถ้าเราไม่มีทักษะในการ คิด ค้นคว้า ซึ่งทักษะ ต่างจากความรู้ ตรงที่ ต้องฝึกฝนและใช้เวลา ![]() ![]() ![]() ![]() เว็บไซด์ ประวัติศาสตร์ไทยจะได้ประโยชน์อย่างสูงสุดนั้น นักเรียน ครู อาจารย์ และผู้สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยในอดีตจนถึงสุโขทัย ควรอ่านคำชี้แจงเกี่ยวกับการใช้เว็บไซด์ให้เข้าใจอย่างถูกต้องเสียก่อน เพื่อความสะดวกและได้รับสารประโยชน์ที่สนใจได้อย่างเต็มที่ดังนี้
หวังว่าเว็บไซด์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทยในอดีตจนถึงสุโขทัยนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อทุก ๆ ท่านที่ได้ศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้ศึกษาให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นสืบไป ครูชาญวิทย์ ครับผม ![]() ![]()
![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ดอกคูณ ![]() ตอนนี้ ทั่วโลก..... กำลังใช้ความพยายามในการปรับหลักสูตร เปลี่ยนก ารสอน และการสอบแบบท่องจำ ให้เป็นการสอนเพื่อให้เด็ก มีทักษะ แห่งอนาคต คือ คิด สร้างสรรค์ ทักษะในการทำงาน เป็นทีม ทักษะในการสื่อสาร ในการใช้เทคโนโลยี่ และในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ประเทศเราเองก็เร่งมือครับ.... เพราะต่างรู้ว่า การสอนแบบเดิม การสอบแบบท่องจำนั้น ใช้ไม่ได้แล้ว แต่ปัญหาคือ เด็กจะต้องทนเรียนแบบนี้ ไปอีกนานแค่ไหน ครู และ โรงเรียน...จะเปลี่ยนได้เพียงใด หลักสูตรใหม่เสร็จแล้ว แต่ต้องรอขั้นตอน อีกระยะ งานหนักที่จะตามมาคือ ทำอย่างไรให้คุณครูเปลี่ยนการสอน ทำอย่างไรให้ สทศ. เลิกออกข้อสอบท่องจำ ทำอย่างไรให้มหาวิทยาลัย รับเด็กโดยดูจาก ศักยภาพ ความสนใจ ประกอบกับผลสอบทางวิชาการ แทนการคัดเลือก โด ยการสอบแบบเดิม Aussie's school โรงเรียนวันนี้ ไม่มีการบ้าน แบบเดิมๆแล้ว เพราะครูรู้ว่า เด็กที่นี่ชอบเล่นเกมส์ (ความจริงก็เด็กทั้งโลกน่ะครับ) คุณครู จึงมอบหมายการบ้าน ทุกวิชาเป็นเกมส์ ครับ เกมส์เหล่านี้ มีเยอะแยะที่จัดทำไว้ ซึ่งคุณครูบ้านเรา ถ้าสนใจก็ไปนำมาใช้ได้ ผู้ปกครองหลายท่าน สงสัยว่าทำไม ทางโรงเรียน ไม่มีการบ้านให้ลูกเลย โรงเรียนจึงต้องส่ง จดหมายชี้แจง พร้อมทั้งให้ ผปค. เข้าดูการบ้านทุกวิชา ได้ เด็ก ปอ4 -ปอ 6 ที่นี่ ทำการบ้าน online ทุกวิชาครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() "ลูกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม...ที่จะเป็น ครู” แม่เอ่ยปากถาม หลังจากที่ทราบว่าผมจะสอบบรรจุเข้าเป็น 'ครู' "ครับแม่...แม่จะได้มี 'ทายาทอสูร' คนต่อไปไงครับ" ผมกระเซ้า แต่แม่กลับทำหน้าจริงจังไม่ยอมเล่นด้วย “นี่แม่พูดจริงนะ.. แม่อยากให้ลูกคิดให้ดี ก่อนที่ลูกจะตัดสินใจเป็น 'ครู' " "โอ้โห... ทำไมแม่ต้องจริงจังขนาดนั้นด้วยล่ะครับ แค่ผมจะสอบบรรจุแค่เนี๊ยะ ยังไม่รู้ผลเลยนะครับแม่" ผมแกล้งโวยวายเมื่อเห็นแม่ทำหน้าดุ แต่แม่ได้กล่าว 'คำสอน' ที่ผมจดจำไปตลอดชีวิต "ลูกจำ 'คำแม่' ไว้นะ... เมื่อลูกตัดสินใจเป็น 'ครู' ลูกจะต้องเป็น 'ครู' ไปตลอดชีวิต" แม่หยุดชั่วครู่แล้วพูดต่อไปว่า... "เพราะเมื่อมีคนเรียกลูกว่า 'ครู' นั่นก็หมายความว่า เขา 'ยอมรับและศรัทธา' ในตัวลูก ลูกคือผู้ที่จะ 'ชี้นำ' ให้เขาเดินต่อไปในทางเดินชีวิต 'คำสอน' ของลูกจะถูก 'จดจำและบันทึก' ไว้นานแสนนาน เขาจะไม่โกรธ ไม่เกลียด ลูก แม้ว่า... ลูกจะ 'ตี' เขาจนต้องร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ตรงกันข้าม เขาจะจดจำมันไว้ดั่งเป็น 'ร่องรอยแห่งความปรารถนาดี' ที่เขาได้รับจากลูก เขาจะ 'เคารพและศรัทธา' ต่อลูก... ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะ...อายุของลูก ไม่ใช่เพราะ...ทรัพย์สินเงินทองของลูก ไม่ใช่เพราะ...ประกาศนียบัตรของลูก แต่เพราะ...ความเป็น 'ครู' ของลูกเท่านั้น! วันข้างหน้า...หากลูก ลาออกจากอาชีพ 'ครู' ไป 'ใบลาออก' ของลูกจะมีผลตามกฎหมายเท่านั้น แต่จะไม่มีผลใดๆต่อ 'ลูกศิษย์' ของลูกเลย ทั้งนี้ก็เพราะ...สำหรับพวกเขาแล้ว ลูกคือ 'ครู' ของพวกเขา... ไปตลอดชีวิต" แล้วแม่ก็ส่งบทกวีให้อ่าน บทกวีที่ผม จดจำไว้ตลอดชีวิตการเป็น ‘ครู’ ของผม ครูคือผู้ถึงแล้ว ความงาม ครองจิตอยู่ทุกยาม เที่ยงแท้ ครองกายบ่ทำทราม ใฝ่ต่ำ นาพ่อ พลั้งพลาดบ่อาจแก้ กลับได้ คำ “ครู” ![]() ![]() ![]() ![]() |